Ballstep2-th สาระน่าติดตาม คงปฏิเสธเลยไม่ได้ว่ายุคนี้เป็นยุคของความเจริญรุ่งเรืองทางเทคโนโลยี การสื่อสารและอิเล็คทรอนิก ที่ทุกวันนี้เปรียบเสมือนเป็นส่นหนึ่งในชีวิตของเราไปเสียแล้ว ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนหรือเวลาไหนเราต้องมีสมาทโฟนใช้กันทุกคนภ้วนหน้าอยู่แล้วครับ ทุกคนก็ต้องปรับตัวให้เข้ากับสังคมในยุคที่ความเจริญเพิ่มขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ทุกคนต่างก็ปรับตตัวเพื่อให้ทันกับยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลงไป เพราะสิ่งที่เปลี่ยนไปอย่างมากเลยก้คือโทรศัพท์มือถือ ที่ทุกคนต่างก็ต้องมีติดตัวกันทุกคน จากที่เมื่อก่อนเราใช้โทรศัพท์มือถือในรูปแบบของปุ่มกดที่ มีเพียงสัญญาณ โทีศัพท์เท่านั้น แต่เมื่อมาเปลี่ยนเป็นสมาทโฟน ที่แทบจะไม่เหลือปุ่มกดมีเพียงแต่หน้าจอ ทัชสกรีน ได้ทั่วทั้งหน้าจอ และมีเรื่องของระบบสํญญาณอินเตอร์เน็ตเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ถ้ายังจำกันได้ ในยุค ประมาณ พ. ศ. 2550 เป็นต้นมาความเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีนั้นได้เปลี่ยงแปลงไปชนิดที่เรียกว่าก้าวกระโดดเลยทีเดียว จากที่อินเทอร์เน๊ตนั้นสามารถใช้งานได้แค่กับคอมพิวเ้ตอร์ตั้งโต๊ะ และมีความยุ่งยากซับซ้อนมากกว่าจะทำให้ใช้งานได้ แต่ในปัจจุบันนี้ การมีอินเตอร์เน๊ตอยู่ในโทีศัพท์นั้นเป็นเรื่องที่ง่ายดายมากเลยครับและก็ได้กลายเป็นจุดเปลี่ยนแห่งโลกเทคโนโลยีของโลกเลยครับ
– จะใช้การตีกลองส่งสัญญาณ เป็นจังหวะและเป็นทอดๆกันไป
– การส่งเสียงออกไปเป็นช่วง ต่อกันไปเรื่อยๆ จากปลายทางจนถึงต้นทาง
ิ – การสื่อสารด้วยสัญญาณควัน
-การฝึกนกพิราบให้บินไปและบินกลับเพื่อฝากจดไม้ติดตัวไปกับมันเมือมะนุษย์มี
– หรือการส่งเอกสารโดยใช้การม้าเป็นทางที่ไกลเหน่อปกติ
– การคววบตุมบังคับใสมรา้นสฬช้ฃวให้มีความเตือรแจ้งบอง
ถือส่าเป็นยุคที่สำคัญ หลัจากที่เราได้ใผู้ รูปแบบการสื่อสาร อย่างจริงจังและแพร่หลายแล้ว Ballstep2-th รหัสมอสนั้นถูกคิดค้นขึ้นโดย แซมมวล ฟินลี บรีซ มอร์ส (Samuel Finley Breese Morse ) ซึ่งทำมาสำหรับการสื่อสารระยะไกล รหัสมอร์สถูกคิดค้นขึ้นพื่อใช้สำหรับการสื่อสารระยะไกลโดย แซมมวล ฟินลี บรีซ มอร์ส (Samuel Finley Breese Morse) ซึ่งเป็นวิธีการส่งข้อความในรูปของสัญญาณสั้นกับยาวและได้ใช้กับการสื่อสารระบบโทรเลข เนื่องจากระบบโทรเลขเริ่มต้น ไม่สามารถส่งเป็นตัวอักษรได้ จึงใช้รหัสมอร์สแทนตัวอักษรโดยแทนด้วยสัญลักษณ์ขีดและจุด ซึ่งทำให้ส่งโทรเลขมอร์สได้สำเร็จในปี พ.ศ. 2380 (ค.ศ. รหัสที่มอร์สกำหนดขึ้นมาโดยใช้สัญญาณเพียงสองลักษณะเท่านั้นคือสัญญาณไฟสั้นกับยาวด้วย . กับ – (จุด กับ ขีด)จุดเกิดจากการกดคันเคาะในช่วงเวลาสั้นๆ ส่วนขีดเกิดจากการกดคันเคาะแช่ไว้เป็นเวลาที่นานกว่ามอร์สนำเอารหัสจุดกับขีดนี้มาผสมกันแล้วกำหนดเป็นรหัสสัญญาณโทรเลขของตัวอักษรต่างๆขึ้นมา และรหัสมอสนี้เองก็เป็นจุดที่ทำให้ต่อยอดไปสู่อุปกรณ์สื่อสารอีกมากมาย
เนื่องจากการใช้ตัวเลขในการสื่อสารแลแปรแออกมาเป็นประโยคๆนั้น เสียเวลาและใช้เวลานานกว่าจะฝึกผู้ที่ชำนาญการแบบนั้นได้ และถ้าเป็นข้อมูลที่มีความยาวนั้น ก็หมายถึงข้อมูลตัวเลขมหาศาลกันเลยทีเดียว จรึงได้มีการต่อยอดจากเครื่องส่งรหัสมอส มาเป็นเครนื่องพิมพ์ ที่ในปัจจุบันนี้เรียกกันว่าพิมดีด ที่หลายๆคนเคยเห็นกันออยู่นั้นเอง รวมไปถึงคียร์บอร์ดที่ใช้ง่านกับคอมพิวเตอร์ ก็เป้นหลักกการการทำงานแบบเดียวกัยบเครื่องพิมดีดนะครับ
ยุคนี้คือยุคแห่งการเปลี่ยนแปลง เลยครับเมื่อนักวิทยาศาสตร์ สามารถแปลงสัญญาณเสียงเป็นไฟฟ้าได้อเล็กซานเดอร์ เกรแฮม เบลล์ (Alexander Graham Bel) จึงได้ประดิษฐ์โทรศัพท์ขึ้นมา โดยการแปลงสัญญาณที่ได้แล้วทำให้ว่ิงไปตามสายไปที่ทำมาโดยเฉพาะ เพื่ิส่งไปยังปลายทางที่ที่หนึงที่มีระยะทางไกลมากๆๆๆๆๆๆๆและทำให้เกิดแนวคิดต่อๆมาในการประดิษฐ์โทรศัพท์ในปัจจุบัน
-โทรศัพท์บ้าน
-โทศัพท์บ้านเคลื่อนที่
-โทรศัพท์มือถือเคลื่อนที่
-โทรศัพท์สมาทโฟน
– ยุคหลอดสูญญากาศ ( Vacuum tube ) อยู่ระหว่างช่วง พ.ศ. 2488-2501
-ยุคทรานซิสเตอร์ (Transistor) อยู่ระหว่างช่วง พ.ศ. 2502-2506
-ยุควงจรรวม อยู่ระหว่างช่วง พ.ศ. 2507-2512
– ยุควีอแลเอสไอ LSI (Large-Scale Integrated Ciruit) อยู่ระหว่างช่วง พ.ศ. 2513-2532
– ยุคเครือข่าย VLSI (Very Large-Scale Integrated Ciruit) อยู่ระหว่างช่วง พ.ศ. 2513- ปัจจุบัน
เพราะอุปกรณ์ที่เข้าถึงสัญญาณอินเตอร์ตอร์เน๊ตได้นั้น หมายถึงการที่สามารถเชื่อมต่อกับโลกทั้งใบได้อย่างง่ายดาย ครับ ปัจจุบันอินเตอร์เน๊ตก็เป็นอีกปัจจัยสำคััญในการใช้ชีวิตเลยนะครับ เพราะแบบที่หลายๆคนพูดไว้ครับ สมาทโพนถ้าไม่มี อินเตอร์เน๊ต ก็เหมือน””ที่ทับกระดาษ”” มันเจ็บมากเลยใช่มั้ยครับแต่มันก็คือเรื่องจริงครับ ที่ปัจจุบันนี้เป็นอะไรที่ขาดไปไม่ได้เลยจริงๆ ไหนๆก็พูมาขนาดนี้แล้วผม จะมาแนะนำโครงสร้างของระบบอินเตอร์เน๊ตกันเลยดีกว่าครับ
องค์ประกอบของระบบอินเตอร์เน๊ตนั้น มีการเชื่อมโยงกันของระบบต่างๆหลายตำแหน่ง ถึงทำให้เกิดเป็นระบบอินเตอร์เน๊ตได้ เนื่องจากอินเตอร์เน๊ตนั้นเป็นเครือข่ายระดับโลกและเป็นเครือข่ายสาธาระณะ ที่กว้างใหญ่ที่สุดมนโลก องค์ประกอบของมัน มีทั้งหมด 5ส่วนด้วยกันดังนี้
– คอมพิวเตอร์แม่ข่าย (Server) หรือ โฮสต์ (Host) ได้แก่ คอมพิวเตอร์ศูนย์กลาง ที่ ให้บริการข้อมูล และส่งถ่ายข้อมูลต่างๆ
– คอมพิวเตอร์ลูกข่าย ( Client) ได้แก่ คอมพิวเตอร์ที่เป็นลูกข่าย ที่เก็บข้อมูลทั่วไป เพื่อนำไปใส่ไว้ในคอมพิวเตอร์แม่ข่าย ผู้ใช้บริการอินเตอร์เน๊ตทั่วๆไป นับเล๋นแคลูกข่ายทั้งหมด
-โมเด็ม ( Modem ) ทำหน้าที่เป็นตัวแปลงสัญญาณอนาลอค และ สัญญาณ ดิจอตอล
-สายโทรศัพท์ (Telephone) หมายถึงระบบทั่วไปขอโทรศัพท์ ซึ่งต้องใช่สายโทรศัพทฺในการเชื่อมต่อ
-สายใยแก้วนำแสง (Optical Fiber) เป็นสายสัญญาณอีกประเภทนึงแต่มีคุณสมบัติที่ดีกว่าสายโทรศัพท์แบบธรรมดา
-คลื่นวิทยุและดาวเทียม (Microwave and Satellite) เป็นการสื่อสารแบบไร้สาย ที่ใช้คลื่นวิทยุไร้สายในการส่งสัญญาณ ไปมาระหว่างพื้นที่ข้ามทวีป
-มาตรฐานทีซีพี/ไอพี (TCP/IP : Transmission Control Protocal/Internet Protocal) เป็นโพรโตคอลมาตรฐานสำหรับรับ-ส่งข้อมูลของเครือข่ายอินเทอร์
– มาตรฐานเฮชทีทีพี (HTTP : Hypertext transfer protocol) เป็นมาตรฐานสำหรับการสืบค้นข้อมูลชนิดไฮเปอร์เท็กซ์ (HTML) กำหนดและควบคุมวิธีการสื่อสาร ผ่านโปรแกรมสำหรับติดต่ออินเทอร์เน็ต หรือเบราว์เซอร์ (Browser) กับเครื่องแม่ข่าย หรือ-เว็บเซิร์ฟเวอร์ (Web Server)
-มาตรฐานเอฟทีพี (FTP : File Transfer Protocal ) เป็นมาตรฐานที่ใช้ในการควบคุมและกำหนดวิธีการ โอนย้ายแฟ้มข้อมูล
เป็นยังไงกันมั้งครับสำหรับสาระความรู้ดีๆที่ผมได้นำมาฝากกันก็หวังจะเป็นประโยชน์ สำหรับใครหลายๆคน ที่อยากได้ความรู้ดีๆด้านนี้ แล้วในบทความหน้าเราจะพาท่านไปชมกันครับว่าโลกอินเตอร์เน็ต นั้นมีอะไรอีกมากมายที่ทำใหห้ทุกท่านตื่นตาตื่นใจกันครับ สุดท้านนี้ผมขอฝาก เอาไว้ด้วยกับบทความดีๆด้วยครับ
Cr. ไร้ลักษณ์
ทางเข้าBALLSTEP2
ทางเข้าที่ 1. http://www2.snow98.com
ทางเข้าที่ 2. http://www2.snow98.com/login2
Call Center 24 ชั่วโมง
โทร.082-339-6464
โทร.082-339-6565